http://www.sabuyjaishop.com/shop/mixxbook/images/azdme2y0llgg2l3rqlia24420103327.jpg
“ปุลากง” หนังสืออ่านนอกเวลาที่ทำให้ผู้อ่านหลงรักการอ่านนิยายได้โดยไม่รู้ตัว เริ่มต้นจากความจำเป็นที่ต้องอ่าน แต่จบลงด้วยความรู้สึกดีที่ได้อ่าน คืออิทธิพลที่ได้รับมาจากหนังสือเล่มนี้ ด้วยการดำเนินเรื่องที่ละเอียดเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้ถ้อยคำที่สละสลวย และยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมไทยในชนบท โดยมีตัวดำเนินเรื่องคือคู่พระนาง รวมถึงบุคคลต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้เรื่องดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีครบทุกรสชาติ เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย เชื่อว่าใครได้ลองอ่านจะติดใจผลงานของคุณโสภาค สุวรรณ อย่างแน่นอน
ความชื่นชอบในการอ่านของแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป บางคนชอบที่จะอ่านหนังสือ บทความ นิตยสาร วาราสาร เป็นต้น โดยไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าตนเองไม่ชอบการอ่าน เพราะเพียงแค่เราสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ เราก็จะศึกษาเรื่องนั้นๆ นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการอ่านเบื้องต้นแล้ว สำหรับฉันหนังสือเรียนคือยานอนหลับขนานดีก็ว่าได้ หนังสือนิยายจึงเป็นสิ่งที่ฉันชอบอ่านมากที่สุด เรียกได้ว่าอ่านได้ไม่รู้จักเบื่อเลยก็ว่าได้ และปุลากงก็คือหนังสือนิยายที่ชื่นชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เป็นหนังสือแต่งดี ที่ได้อ่านในอดีตตั้งแต่สมัยมัธยม เมื่ออาจารย์ให้คำถามมาว่าชอบอ่านสิ่งพิมพ์อะไรมากที่สุด หนังสือเล่มนี้ก็ผุดขึ้นมาทันที ด้วยเพราะเราไม่เคยลืมความทรงจำดีๆ เมื่อได้อ่านเรื่องนี้ก็คงเป็นได้ หลังจากนั้นเราจึงได้กลับมาอ่านหนังสือเรื่องนี้อีกครั้งเพื่อรื้อฟื้นรายละเอียดของเรื่องที่ลางเลือนไป ถ้าหากถามว่าชอบเรื่องนี้เพราะอะไร ก็คงต้องตอบว่าเพราะหลงรักตัวพระนางของเรื่องที่ชื่อ “หนูตุ่น” กับ “นายเข้ม” ที่แสดงถึงมุมมองของชีวิตครอบครัวที่แตกต่างกันออกไป การเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป บุคลิกที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่มีอุดมการณ์เดียวกันคือ การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม นอกจากตัวละครที่ทำให้เราประทับใจได้แล้ว ฉันคิดว่าเพราะเนื้อหาที่น่าสนใจที่ผู้แต่งสามารถทำให้ผู้อ่านเดาเหตุการณ์ของเรื่องต่อไปล่วงหน้าไม่ได้ ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้อ่านและลุ้นว่าต่อไปเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร ทำให้เราสนุกที่จะติดตาม อีกถ้อยคำที่สละสลวย การใช้คำพูดต่างๆ ที่ทำให้เราเข้าถึงเนื้อหาได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการสอดแทรกเนื้อหาที่นางเอกเป็นพัฒนาการเข้าไปพัฒนาท้องถิ่นในชนบทต่างศาสนากันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราประทับใจ ทำให้ได้รู้ว่าไม่จะศาสนาใดก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ รู้จักการมีประชาธิปไตยในชุมชน นอกจากนี้ยังแฝงเรื่องความรักชาติ ความภาคภูมิใจในผืนแผ่นดินไทยได้ไว้อย่างแนบเนียน เป็นกันกระตุ้นการสร้างความรักชาติของเราได้อย่างงดงาม เชื่อว่าถ้าใครได้ลองอ่านนิยายเรื่องนี้อาจจะวางไม่ลงก็เป็นได้
หลายคนคงสงสัยว่า “ปุลากง” คืออะไร ถ้าไปถามคนในจังหวัดปัตนีเขาก็อาจจะร้องอ๋อ แต่ถ้าเป็นพวกเราคนจังหวัดอื่นๆ ก็คงจะสงสัยจึงต้องอ่านเรื่องนี้ดู ถึงจะร้องอ๋อ ว่าปุลากงคือตำบลเล็กๆ ของจังหวัดปัตนีนั้นเอง เมื่ออ่านเรื่องจะรู้ได้เลยว่าทำไมถึงต้องชื่อเรื่องปุลากง ไม่ต้องสงสัยก็เพราะเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้นที่นั้น ความรักของพระนางก็เกิดขึ้นในที่แห่งนี้ด้วย จากที่กล่าวมาแล้วว่า หนูตุ่นนางเอกของเรื่องเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ไม่ค่อยอ่อนหวาน และเข้มแข็ง สู้งานหนักเบาทุกอย่าง พูดได้ว่าผู้ชายหลายคนต้องอาย จบปริญญา 2 ใบจากรั้วธรรมศาสตร์ อยู่กับแม่สองคนและภายหลังแม่เสียชีวิต เหลือตัวคนเดียวจึงสมัครเป็นพัฒนากรเพื่อให้ลืมความเศร้าที่คิดถึงแม่ ได้ไปพัฒนาตำบลปุลากง และพระเอกของเรื่อง นายเข้ม ชายหนุ่มที่หล่อเข้ม เหมือนชื่อตัวเอง ค่อนข้างจะเป็นคนแข็งกระด้าง ด้วยปมปัญหาครอบครัว แต่ก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นนายตำรวจใหญ่ด้วยความสามรถของตัวเองล้วนๆ ได้ไปเจอกับนางเอกครั้งแรกที่ปุลากง เพราะได้ไปประจำการณ์อยู่ในตัวอำเภอที่ปัตนี ตำบลนี้อยู่ในความดูแลของเขา เหมือนพรหมลิขิตเล่นตลก จากเพื่อนข้างบ้านในสมัยเด็กที่ไม่สนิทกันเลย แต่การได้มาพบกันอีกครั้งในอีกที่หนึ่งกลับกลายเป็นบ่อเกิดของความรู้สึกที่เรียกว่า “ความรัก” หลายๆ เรื่องราวเกิดขึ้นที่ปุลากง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ของความรักของทั้งคู่ นอกจากนี้ยังได้เกิดการเรียนรู้ถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีความเชื่อของผู้คนที่นับถือศาสนาอิสลาม ความรักความผูกพันของชาวบ้านกับนักพัฒนากร ปัญหาโจรใต้ การปลูกจิตสำนึกความรักชาติ รักแผ่นดินเกิดให้กับเด็กในชนบท การเปลี่ยนความเชื่อผิดๆ ให้กลับมาสู่ความถูกต้อง โดยเริ่มจากผู้นำท้องถิ่น เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายสร้างความตื่นเต้น สนุกเศร้า เคล้าน้ำตาไปได้ตลอดทั้งเรื่อง มีประโยคประทับใจอยู่หลายประโยคที่ตัวละครในเรื่องได้พูดไว้ ตัวอย่างเช่น
พระเอกของเรื่องได้นึกถึงชีวิตตัวเองที่เติบโตมาได้นั้นจำดีจะชั่วนั้นอยู่ที่ตัวเอง เขากล่าวถึงบุคคลที่เป็นเจ้าของบทกวีลือชื่อเกอเธ(Goethe) ซึ่งได้ตั้งคำถามว่า... “เหตุใดเราจึงมองเห็นดวงอาทิตย์” มีหลายคนได้เสนอคำตอบ แต่หาคำตอบที่ถูกต้องไม่ เขาได้สรุปว่า “นั่นเป็นเพราะมนุษย์มักไม่มองดูตัวเองเสียก่อน” เขามีคำตอบให้กับตัวเองได้ไพเราะว่า “เราจะมองเห็นดวงอาทิตย์ต่อเมื่อเราลืมตานั่นเอง” มีคนถามนางเอกว่าทำไมจะต้องมาเป็นพัฒนากรให้ลำบากอยู่บ้านไม่สุขสบายมากกว่าหรือ ไม่ต้องมาอดทนลำบากเพื่อคนอื่นในชนบทเช่นนี้ นางเอกตอบไปว่า... “อุดมคติที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำงานเพื่ออะไรสักอย่างก็ได้เพื่อเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ถึงจะชั่วระยะเวลาสั้นก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเสียเลย... พวกเราเวียนว่ายอยู่ในสังคมที่ทำเพื่อให้พ้นไป ปัดความรับผิดชอบกันเป็นช่วงๆ เรียนเพื่อรับปริญญาบัตร สำหรับถ่ายรูปหรูหราและพูดกับคนทั่วไปว่าเป็นปัญญาชน แต่จุดมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่นั้น มีส่วนน้อยที่คำนึงถึงว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง...” นางเอกเปรียบอาชีพของตัวเองกับช่างตัดเสื้อว่า... “ฉันก็เหมือนช่างตัดเสื้อที่ยินดี เวลาคนสวมใส่พอใจ แต่งานของฉันใช้เวลาประเมินผลยาวนานกว่าเท่านั้น” เพื่อนสนิทของนางเอกพูดถึงเรื่องความรักให้ฟังว่า... “...ความรักที่แท้จริงไม่เลือกเวลา บุคคล และสถานที่ ความพอเหมาะพอดีต่างหาก” ชาวบ้านกล่าวขอบคุณนางเอกที่มาพัฒนาบ้านของตน และกล่าวว่า... “...ศาสนาคือดวงประทีปที่ส่องแสงสว่างให้แก่มนุษย์ให้สละความชั่วทำแต่ความดีทำใจให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง...ศาสนาไม่ใช่เครื่องแบ่ง เชื้อชาติพุทธหรืออิสลาม ก็เป็นคนชาติเดียวกันคือไทย... จะต้องสามัคคีกัน และพวกเราชาวชนบท เป็นรากฐานแห่งความมั่นคงของชาติ เราจะต้องพัฒนาเรื่อยไปไม่หยุดยั้ง เพราะถ้าหยุดเราจะล้าหลังขาดความเจริญไม่ทันในเมืองหรือต่างประเทศเขาเลย...” คำพูดที่ได้ยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในเรื่องเท่านั้น หากใครได้อ่านดูจะรู้ว่ามีประโยคดีๆ ที่นำมาปรับใช้ในชีวิตของเราได้อีกมากมาย
หนังสือที่เราชื่นชอบมากที่สุดอาจจะไม่ได้มีเพียงเล่มเดียว สำหรับฉันปุลากงคือ “หนังสือที่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุด” หลายๆ เรื่องราวภายในเรื่องสามารถนำมาปรับเข้าใช้ได้จริงในชีวิตของเรา บางเรื่องทำให้เราฉุกคิด เตือนสติให้เราได้ ฉันว่าคุณค่าของงานเขียนอยู่ที่เราได้รับอะไรจากการอ่านบ้าง แล้วเรานำสิ่งที่ได้ไปทำให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร ต้องขอขอบคุณเจ้าของผลงาน โสภาค สุวรรณ ที่ได้ประพันธ์หนังสือดีๆ ให้เราได้อ่าน ฉันเชื่อว่าจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หลายๆ คนก็คงอยากจะรู้จักว่า หนังสือเล่มนี้หน้าตามันเป็นอย่างไร หรือบางคนอาจจะอยากลองอ่านดูก็เป็นได้ ถึงแม้ถ้าใครได้ลองอ่านดูได้ไม่ประทับใจเท่าที่ควร ฉันก็ไม่เสียใจเพราะคนเราไม่จำเป็นที่จะมีความชื่นชอบเหมือนกันหมด ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน หวังว่าคุณจะมี ปุลากง เป็นหนึ่งในหนังสือที่คุณรู้สึกดีๆเมื่อได้เปิดอ่านนะคะ